คุณภาพเว็บไซต์นั้นสำคัญไฉน ตรวจสอบได้ด้วยวิธีใดบ้าง
การทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้น ไม่ใช่เพียง “แค่มี” เว็บไซต์แล้วจะช่วยให้คุณทำธุรกิจได้ เพราะเว็บไซต์ที่จะสามารถทำธุรกิจได้ดีด้วยนั้น คุณภาพเว็บไซต์ต้องดี อยู่ในเกณฑ์ที่สร้างความประทับใจ และความพึงพอใจให้กับเหล่ากลุ่มเป้าหมายได้ด้วย ว่าแต่เว็บไซต์คุณภาพนั้นเป็นแบบไหน คุณภาพเว็บไซต์สำคัญอย่างไร และตรวจสอบได้ด้วยวิธีได้บ้าง ในเนื้อหาต่อไปนี้ มีรายละเอียดเตรียมไว้ให้คุณได้ศึกษาเรียบร้อยแล้ว
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
เว็บไซต์คุณภาพนั้นต้องเป็นแบบไหน
หากต้องพูดถึงในแง่ของนิยามนั้น แน่นอนว่าคุณภาพเว็บไซต์วัดกันที่ประสบการณ์ผู้ใช้งานอย่างแน่นอน เมื่อกลุ่มผู้ใช้งานเข้ามายังเว็บไซต์ ความประทับใจแรกคือหน้าตาของเว็บไซต์ (UI) ความสวยงามก็นับเป็นคุณภาพอย่างหนึ่งด้วยเช่นกัน ดีไซน์ของเว็บไซต์ที่ออกแบบมาได้อย่างปราณีต สวยงาม ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นปราการด่านแรกที่จะช่วยสะกดจิต สะกดใจให้ผู้ใช้งานเลื่อนเมาส์หนีปุ่มกดปิด และเลื่อนดูรายละเอียดภายในเว็บไซต์ของคุณต่อมาอีกหน่อยนั่นเอง
หลังจากมนต์สะกดของความสวยงามภายในเว็บไซต์ (UI) หมดฤทธิ์ลงแล้ว สิ่งที่จะเข้ามารับไม้ต่อนั้นคือส่วนที่จะสนับสนุนการประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) และระบบการทำงาน (Workflow) ทั้งหมด เนื้อหาเป็นระเบียบ อ่านง่าย ไล่ตามระดับสายตาได้ดี ปุ่มต่าง ๆ คลิกแล้วลิงก์ไปถูกหน้า ไม่พบหน้าเสีย การเข้าถึงหมวดหมู่สินค้า บริการ หรือเนื้อหาต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์เข้าใจง่าย เป็นลำดับขั้นตอน การเลือกสินค้า สั่งจอง ชำระเงินมีฟังก์ชันมากมายรองรับไปจนเสร็จสิ้นธุระของผู้ใข้งาน ความพึงพอใจของเหล่าผู้ใช้งานจากกระบวนทั้งหมดทั้งมวลนี้เอง ที่เป็นตัววัดค่าคุณภาพเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี
ว่าแต่คุณภาพเว็บไซต์จำเป็นต้องดีมากไหม ทำแบบขอไปทีแล้วใส่ใจในกระบวนการตลาดอย่างเดียวได้หรือเปล่า? คำตอบคือไม่แน่นอน เพราะ กระบวนการตลาดต่าง ๆ หรือเทคนิคการเพิ่ม Traffic อื่นใดบนเว็บไซต์นั้น มีคุณภาพเว็บไซต์เป็นตัวตั้งต้น รวมไปถึงการคุณภาพเว็บไซต์ ยังส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณได้ดังนี้
1. เน้น ORGANIC TRAFFIC
แม้จะเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ได้การตลาดแบบ SEO แต่มีการยิงแอดบ้างในช่วงโปรโมชั่น แต่ผลจากการยิงแอดเป็นครั้งคราวนั้น ประกอบกับคุณภาพเว็บไซต์ที่จัดอยู่ในเกณฑ์ดี อาจจะทำให้กลุ่มผู้ใช้งานที่เข้ามาจากการยิงแอด วนกลับเข้ามายังเว็บไซต์ซ้ำอีกครั้งในภายภาคหน้า หรืออาจจะนำไปสู่การแชร์ต่อนั่นเอง
ทั้งนี้ในส่วนนี้คุณภาพเว็บไซต์ก็จะต้องค่อนดี และเป็นที่จดจำในระดับหนึ่ง เพราะหากไม่ได้ทำ SEO ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องใช้การเสิร์ชชื่อเว็บไซต์ หรือชื่อบริษัทไปตรง ๆ เพื่อให้พบกับหน้าเว็บไซต์
2. ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
คุณภาพเว็บไซต์ที่ดีนั้น มาพร้อมกับความน่าเชื่อถือที่คุณจะได้รับเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าหากเทียบเว็บไซต์ที่ทำ Web Design สวยงาม ฟังชันก์ครบ ไม่มีหน้าเสีย ดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์เร็ว กับเว็บไซต์ที่ Web Design ดูไม่ทันสมัย ฟังก์ชันขาด ๆ เกิน ๆ คลิกไปที่ลิงก์ไหนก็พบเจอแต่หน้าเสีย แถมการดาวน์โหลดยังช้า เว็บไซต์ในตัวอย่างแรกย่อมนำมาซึ่งความน่าเชื่อถือที่มากกว่าแน่นอน และสำหรับเว็บไซต์ E-commerce หรือเว็บไซต์ประเภทจำหน่ายสินค้าออนไลน์แล้ว ความน่าเชื่อถือนั้นคือสิ่งสำคัญ ในยุคที่มิจฉาชีพในโลกออนไลน์เยอะขึ้นเรื่อย ๆ
3. ช่วยเพิ่มยอดขาย
ต่อยอดมาจากข้อ (2). ด้านบน เมื่อได้มาซึ่งความน่าเชื่อถือแล้ว แน่นอนว่ามีโอกาสสูงที่ผู้ใช้งานจะตกลงปลงใจเลือกซ์้อสินค้าจากเว็บไซต์ของเรา รวมไปถึงเว็บไซต์ที่มีคุณภาพนั้น จะมีการออกแบบเส้นทางการใช้งาน การเข้าถึงสินค้า แยกหมวดหมู่ และหน้าจำหน่ายไว้อย่างดี ทำให้นอกจากความน่าเชื่อถือแล้ว ระบบการทำงาน (Workflow) ยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายของเว็บไซต์อีกด้วย
4. ทำการตลาดเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น
อย่างที่เราได้กล่าวข้างต้นแล้วว่า การทำการตลาดเว็บไซต์นั้น มีคุณภาพเว็บไซต์ดั้งเดิมเป็นฐาน ไม่ว่าคุณจะทำ SEO หรือยิงแอดแบบ SEM และ PPC หากคุณภาพเว็บไซต์ทำได้ไม่ดีพอ ก็ยากที่การตลาดเหล่านี้จะส่งผลได้เต็มประสิทธิภาพ หรืออย่างแย่ที่สุดก็อาจจะไม่ส่งผลเลย
พอจะเห็นภาพกันมากขึ้นมั้ยเอ่ย ว่าการคุณภาพเว็บไซต์นั้น ให้ข้อดี และสำคัญอย่างไรกับเว็บไซต์ และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ บ้าง ทีนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันบ้างว่าการตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์นั้น ทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง
1. ตรวจสอบ PAGESPEED
PageSpeed หรือเวลาในการดาวน์โหลดเว็บไซต์ เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน เพราะการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ที่นานจนเกินไป อาจจะทำให้คุณเสีย Traffic และสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้งานได้ โดยเบื้องต้นเครื่องมือตรวจสอบ PageSpeed รวมถึงข้อควรปรับที่ดี และฟรีนั้นคือ PageSpeed Insight ใช้งานได้ง่าย ๆ เพียงแค่กรอก url เว็บไซต์ลงไป และเว็บแอปตัวนี้ก็จะ Generate ข้อมูลมาให้เราอย่างละเอียดทั้งแบบ Desktop และ Mobile
2. ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ GOOGLE SEARCH CONSOLE
สำหรับ Google Search Console (GSC) นั้น ผู้คนมักจะคุ้นชินว่าเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ทำ SEO เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าใช่ แต่หลัก ๆ ของการทำ SEO นั้นคือการพัฒนาเว็บไซต์ เพราะฉะนั้นคุณจึงสามารถนำเครื่องมือตัวนี้ในการประยุกต์ใช้เพื่อเช็กประสิทธิภาพเว็บไซต์ หาจุดบกพร่องคร่าว ๆ ได้อีกด้วย *รวมไปถึงหากคุณยังไม่ได้ทำ SEO เราขอแนะนำให้คุณเริ่มทำ หรือเริ่มศึกษาไว้ เพื่อเพิ่มศักยภาพเว็บไซต์และเอาชนะคู่แข่งทางการธุรกิจ
3. ตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ TEST MY SITE
อีกหนึ่งเครื่องมือฟรีสำหรับตรวจสอบเว็บไซต์ที่เราแนะนำนั้นคือ Test My Site เรียกได้ว่ารายละเอียดค่อนข้างครบเครื่องเลยทีเดียว เพราะหน้าตาใช้งานง่าย เข้าใจ บอกละเอียดตั้งแต่ PageSpeed ไปถึงแนะนำวิธีการปรับแต่งเรื่อง UX & UI หากใครยังไม่เคยใช้ อย่าลืมไปลองเทสกันดูนะ
ความสำคัญของคุณภาพเว็บไซต์ก็ทราบกันดีแล้ว เครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์ก็มีให้แล้ว เพราะฉะนั้นเริ่มเดินหน้าเพิ่มคุณภาพเว็บไซต์กันได้เลย แต่หากคุณดูแลเว็บไซต์ด้วยตัวเอง และยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพได้ดีเท่าที่ควรแล้วล่ะก็ 1001 Click ช่วยคุณได้ เราคือผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ทุกประเภท บริการทุกระดับ ประทับใจแน่นอน ครอบคลุมทุกกระบวนการสร้างเว็บไซต์ ดูแล พัฒนา และทำการตลาด มีเว็บไซต์แล้วแต่อยากพัฒนาเพิ่ม หรืออยากรื้อแล้วสร้างใหม่ อย่ารอช้า ทักหาเราได้ที่เว็บไซต์ 1001 Click
- สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com