8 สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application
การจะจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ทั้งที นอกจากจะเป็นโปรเจกต์ที่ซับซ้อนและใช้เวลานานพอสมควรแล้ว ยังนับเป็นการลงทุนที่ต้องใช้ทุนทรัพย์ไม่น้อยเลยด้วย หากเกิดการผิดพลาดขึ้นมา หรือผลลัพธ์ออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจอย่างที่ตั้งใจไว้ก็คงจะน่าเสียดายร่าดู เราจึงได้รวบรวมปัจจัยที่สำคัญ ๆ ในการตัดสินใจจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application มาไว้ให้อ่านกันก่อน เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลาในภายหลัง ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
1. ความเชี่ยวชาญ
การพัฒนา Application เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ประสบการณ์จึงไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่คุณควรพิจารณาในการจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ก่อนที่แอพพลิแคชั่นตัวนึงจะไปอยู่ในโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้ได้ ต้องผ่านขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่การรวบรวมไอเดีย การออกแบบ การพัฒนา การทดสอบ ไปจนถึงการใช้งานจริง ยิ่งหลายขั้นตอน ความผิดพลาดก็ยิ่งเกิดขึ้นได้มาก ดังนั้น นอกจากประสบการณ์แล้ว คุณยังจำเป็นต้องคำนึงถึงความเชี่ยวชาญอีกด้วย ควรเลือกบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบปฏิบัติการณ์ทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอสเป็นอย่างดี
- สำหรับการทำแอพแอนดรอยด์ ควรพิจารณาบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ที่มีความชำนาญในการเขียนโค้ดด้วยภาษา JAVA, Kotlin, C#, Python และ C++
- สำหรับแอพไอโอเอส ให้เช็คที่ความรู้ความสามารถเกี่ยวกับ Swift, Objective-C, Flutter และ C#
2. ผลงานเป็นที่ประจักษ์
ผลงานที่ผ่าน ๆ มาของผู้รับพัฒนา Mobile Application สามารถบ่งชี้ถึงความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงทักษะของนักพัฒนาแอพได้เป็นอย่างดี ก่อนจะตัดสินใจจ้างนักพัฒนาแอพจึงควรขอดูผลงานที่ผ่านมาซะก่อน และไปดูรีวิวและจำนวนดาวของแอพที่เป็นผลงานเพื่อประกอบการตัดสินใจ นอกจากนี้ยังอาจลองดาวน์โหลดแอพนั้น ๆ มาทดสอบการใช้งานดูด้วยก็จะดีไม่น้อย
3. ฝีมือการออกแบบแอพ
ผู้รับพัฒนา Mobile Application จำเป็นจะต้องมีทักษะที่ดีในการออกแบบแอพ เนื่องจากการออกแบบ UI ที่ใช้งานง่ายและลื่นไหลจะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี และจะยังคงใช้แอพของคุณต่อไป ลองคิดในทางตรงกันข้าม เมื่อเราลองดาวน์โหลดแอพอะไรมาลองใช้งานสักตัวนึง แล้วพบว่าการใช้งานค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน เราก็จะตัดสินใจลบแอพนั้นทิ้งไปจากโทรศัพท์ในทันทีเพื่อเข้า Play Store หรือ App Store ไปโหลดแอพตัวอื่นมาใช้งาน เนื่องจากตลาดแอพพลิเคชั่นเป็นตลาดที่กว้างใหญ่ จึงมีแอพแบบเดียวกันที่เป็นคู่แข่งอยู่มากมาย ด้วยเหตุนี้ฝีมือในการออกแบบแอพจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
4. ตั้งงบประมาณไว้ก่อน
บางครั้งราคาที่แพงกว่าก็อาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอไป แต่หลายครั้งราคาที่ถูกมาก ๆ ก็มักจะให้ผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังเช่นกัน ดังนั้นคุณจึงควรตั้งงบประมาณไว้ก่อนโดยอาจลองถามราคาจากผู้รับพัฒนา Mobile Application หลาย ๆ เจ้าดูเพื่อกะเกณฑ์งบประมาณให้ได้พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป การจัดงบไว้ก่อนจะช่วยให้คุณตกลงราคากับนักพัฒนาได้ง่ายขึ้น รวมทั้งยังสามารถช่วยให้นักพัฒนาควบคุมงบให้อยู่ในกรอบ ไม่บานปลายได้อีกด้วย
5. กรอบเวลาที่ชัดเจน
การทำแอพพลิเคชั่นไม่ใช่เป็นโปรเจกต์เล็ก ๆ จำเป็นต้องให้เวลาในการออกแบบและพัฒนาในแต่ละขั้นตอนอย่างเหมาะสม กรณีการจ้างนักพัฒนาเพื่อทำแอพสำหรับบริษัทสักแห่งนั้น ก็แน่นอนว่าจะต้องมีกำหนดการณ์ที่บริษัทนั้น ๆ จะต้องดำเนินการให้ทันเพื่อให้การดำเนินธุรกิจราบรื่น ไม่ติดขัด แต่การเร่งรัดงานกับผู้รับพัฒนา Mobile Application ก็อาจส่งผลเสียจากความเร่งรีบได้ เพราะฉะนั้นคุณจึงควรตั้งกรอบเวลาให้พอเหมาะ ไม่รีบร้อนหรือยืดยาวจนเกินไป ควรตั้งกรอบเวลาไปเสนอแล้วคุยนักพัฒนาว่าเพียงพอหรือไม่ เพื่อจะได้หาจุดกึ่งกลางที่สมเหตุสมผลที่สุด
6. การทดสอบแอพ
การที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานอันราบรื่นให้กับผู้ใช้ได้นั้น แอพของคุณก็จำเป็นจะต้องผ่านขั้นตอนการทดสอบการใช้งานซะก่อน วิธีที่ดีที่สุดในการทดสอบแอพคือการทดลองใช้งานแอพในทุกด้านของการใช้งานดูก่อน และตรวจสอบแอพอย่างละเอียด ควรพิจารณาเลือกบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ที่มีประสบการณ์ในการทดสอบแอพ และยังต้องมีความสามารถในการแก้ไขจุดบกพร่อง (debug) อีกด้วย
7. การเปิดใช้งาน
เมื่อการพัฒนาแอพพลิเคชันในขั้นตอนก่อนหน้าสำเร็จลุล่วงไปหมดแล้ว ก็จะถึงเวลาในการส่งแอพเข้า Play Store หรือ App Store ตามแต่ระบบปฏิบัติการ เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก คุณจึงต้องมองหาผู้รับพัฒนา Mobile Application ที่เข้าใจกระบวนการนี้เป็นอย่างดีและรู้วิธีการทำงานอย่างสมบูรณ์
8. การอัพเดท/แก้ไขภายหลัง
หลังจากที่ได้ส่งแอพเข้าสโตร์ไปตามแต่ละระบบปฏิบัติการแล้ว แอพพลิเคชั่นของคุณก็จำเป็นต้องมีการอัพเดตเพื่อแก้ไขปัญหาหรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้าไปอยู่เรื่อย ๆ มิฉะนั้นแอพของคุณอาจถูกแอพคู่แข่งที่มีการอัพเดตให้ทันสมัย หรือมีเนื้อหาใหม่ ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา แย่งผู้ใช้งานเอาง่าย ๆ ได้ หรือหากเป็นแอพภายในของบริษัทก็จำเป็นจะต้องอัพเดตความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันการโจมตีจากผู้ไม่หวังดี ปัจจัยนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากอีกอย่างหนึ่งที่คุณควรพูดคุยเพื่อตกลงกับบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ให้ชัดเจนในเรื่องของบริการหลังการขาย ไม่ว่าจะเป็นการรับประกัน การแก้ไขข้อผิดพลาด รวมถึงการคิดราคากรณีเลยระยะเวลารับประกันอีกด้วย
ครบถ้วนกระบวนความกันไปแล้วสำหรับ 8 สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application ในวันนี้ แอพมือถือสำหรับธุรกิจของคุณก็เปรียบเสมือนเครื่องมือการตลาดที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังสามารถสร้างแบรนด์ของคุณให้เป็นที่รู้จักได้ในระดับโลกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มแอนดรอยด์หรือไอโอเอส สุดท้ายนี้อย่าลืมเอา ข้อควรพิจารณาทั้ง 8 ข้อนี้ไปปรับใช้ในการว่าจ้างบริษัทรับพัฒนา Mobile Application กันด้วยนะ สำหรับใครที่มีความสนใจหรือมีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ก็สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับเราได้เลยที่เว็บไซต์ 1001 Click เพราะเราคือผู้ให้บริการออกแบบและพัฒนา Mobile Application และ Web Application มืออาชีพที่พร้อมดูแลคุณตลอดเวลา
- Tel : 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com