SSL CERTIFICATE แม่กุญแจตัวสำคัญ มีไว้ปลอดภัยจากการโดนแฮ็ก!

SSL คืออะไร?

เทคโนโลยีการเข้ารหัสข้อมูล (Secure Socket Layer) หรือที่คนทั่วไปเรียกกันติดปากว่า SSL คือกระบวนการสร้างความปลอดภัยระหว่างการส่งต่อข้อมูลของเว็บไซต์ต่อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ เว็บไซต์ต่อเว็บไซต์ หรือเว็บไซต์ต่อแอปพลิเคชั่น ให้เกิดการแปลงค่าของข้อมูลที่สำคัญ กลายเป็นข้อมูลที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงหากถูกบุคคลภายนอกดักจับ หรือสอดแนมเพื่อหวังนำข้อมูลสำคัญไปใช้ประโยชน์ โดยเราจะเรียกใช้งาน SSL ผ่านโปรโตคอล (Protocall) ที่มีชื่อว่า HTTPS

(HTTPSด้านบน URL ก่อนชื่อโดเมน ที่มีสัญลักษณ์แม่กุญแจนั่นเอง จะได้มาหลังจากเราได้ SSL Certificate)

SSL CERTIFICATE คืออะไร?

ใบรับรองความปลอดภัยดิจิทัลสำหรับรับรองความปลอดภัยของเว็บไซต์ แท้จริงแล้วคือไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กสำหรับใช้ยืนยันตัวตน เพื่อเปิดใช้งานการเข้ารหัสเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ระหว่างเว็บไซต์กับเซิร์ฟเวอร์ เพื่อป้องกันการแฮกและดักจับข้อมูลจากบุคคลภายนอก บริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ ควรที่จะทำ SSL Certificate ให้กับเว็บไซต์ เพื่อปกป้องการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ภายในเว็บไซต์ และปกป้องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า

SSL CERTIFICATE สำคัญอย่างไร?

• สร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์

เว็บไซต์ที่มีการรับรองด้วยใบรับรองดิจิทัลนั้น จะได้รับความไว้วางใจในการใช้บริการมากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มี เนื่องจากเว็บไซต์ไม่ได้มีการทำ SSL นั้น เมื่อเข้าใช้บริการ ทาง Google จะแจ้งเตือนผู้ใช้งานว่าเว็บไซต์นี้ไม่ปลอดภัย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความหวาดระแวง และไม่เสี่ยงเข้าไปชมเว็บไซต์ภายในต่อ

• สร้างความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์

เนื่องจากประโยชน์สูงสุด และเป้าประสงค์ของการทำ SSL นั้น คือเพื่อใช้ประโยชน์จากกระบวนการแปลงข้อมูลขณะถ่ายโอนระหว่างการทำธุรกรรม หรือการเข้ารหัส สำหรับหลีกเลี่ยงการถูกแฮกหรือถูกดักจับข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์จากคนภายนอก แม้ว่าแท้จริงแล้วกระบวนการป้องกันของ SSL จะไม่สามารถการันตีผลได้ถึง 100% แต่กระนั้น ก็เป็นกระบวนการป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ในขณะนี้แล้ว

• เป็นผลดีกับ SEO

เนื่องจากกระบวนการ SSL นั้น ได้รับความไว้ใจจาก Google ทำให้เว็บไซต์ที่มี SSL Certificate นั้นก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งปัจจัยของการทำ SEO โดยเว็บไซต์ที่มีใบรับรองดิจิทัลนั้นจะมีโอกาสได้รับการจัดอันดับเว็บไซต์ในหน้าการค้นหาของ Google สูงกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มีแน่นอน

จะทำ SSL CERTIFICATE ได้อย่างไร?

สำหรับการทำ SSL Certificate นั้น จะต้องได้รับการอนุมัติโดยหน่วยงานที่เรียกกันว่า CA หรือ Certificate Authority เป็นหน่วยงานที่จะช่วยรับรองความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเรา โดยหากเว็บไซต์ใดหาช่องทางสำหรับ SSL ปลอม หรือ SSLในรูปแบบที่ไม่ได้มาตรฐานมา จะทำให้เว็บไซต์ไม่ได้การรับรองความปลอดภัย และผู้ใช้งานต้องยืนยันเพื่อรับความเสี่ยงในการเข้าชมเว็บไซต์ทุกครั้ง

ประเภทของ SSL CERTIFICATE จะแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

1. DOMAIN VALIDATED SSL CERTIFICATE (DV)

DV เป็นขั้นตอนการรับใบรับรองความปลอดดภัยดิจิทัลที่น้อยขั้นตอน ง่าย และไวที่สุด โดยผู้ให้บริการออกใบรับรองความปลอดภัยทางดิจิทัลนั้น จะตรวจสอบเพียงแค่ว่าโดเมนที่มาใช้บริการนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ และใครคือเจ้าของ โดยดูจากชื่อเว็บไซต์ และอาจจะมีการติดต่อสอบถามผ่านทางอีเมล หรือทางโทรศัพท์เพิ่มเติม

SSL Certificate ประเภทนี้จะได้รับแม่กุญสีเขียวบนชื่อโดเมน พร้อมข้อความที่ระบุว่า Secure เพียงเท่านั้น

2. ORGANIZATION VALIDATED SSLCERTIFICATE (OV)

OV เป็นขั้นตอนการรับใบรับรองที่ความละเอียดขึ้นมามากกว่า DV และใช้เวลามากขึ้นอีกหน่อย โดยผู้ให้บริการออกใบรับรองความปลอดภัยทางดิจิทัล นอกเสียจากจะดูว่าใครเป็นเจ้าของโดเมนผ่านชื่อเว็บไซต์แล้ว ยังต้องมีการยื่นเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเป็นองค์กรหรือธุรกิจที่มีอยู่จริง

SSL Certificate ประเภทนี้ นอกจากจะได้รับสัญลักษณ์แม่กุญแจด้านบน และข้อความ Secure แล้ว ยังมีการระบุรายละเอียดขององค์กรไว้ใน Certificate อีกด้วย

3. EXTENDED VALIDATION SSL CERTIFICATE (EV)

EV เป็นขั้นตอนการรับใบรับรองที่มีความละเอียดที่สุด และใข้เวลามากที่สุด อาจจะใช้เวลาในการยืนยันตัวเป็นสัปดาห์ในบางกรณี โดยใบรับรองรูปแบบ EV นั้น จะใช้การตรวจสอบที่ครอบคลุมตั้งแต่โดเมนนี้เป็นของใคร ตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ ต้องใช้เอกสารยืนยันการมีอยู่ของธุรกิจที่ชัดเจน และต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกถึงอายุของธุรกิจ รูปแบบการทำงานของธุรกิจ และตรวจสอบระดับความน่าเชื่อถือของธุรกิจ โดย SSL ประเภทนี้ ผู้ที่ครอบครองมักจะเป็นธุรกิจเจ้าใหญ่ ๆ และมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ขายของออนไลน์เจ้าใหญ๋ หรือไซต์เว็บธนาคารเป็นต้น

SSL Certificate ประเภทนี้ ตรงสัญลักษณ์แม่กุญแจสีเขียวด้านบน จะต่อด้วยชื่อองค์กร และค่อยตามด้วย URL และแน่นอนว่ามีการระบุรายละเอียดขององค์กรไว้ใน Certificate อีกด้วย

เกร็ดความรู้ที่หลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับ SSL CERTIFICATE