MOBILE FRIENDLY | ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ประสบความสำเร็จ (2022)
คาดว่าในปัจจุบัน คนทำเว็บไซต์หลาย ๆ คน คงไม่มีใครไม่รู้จักการทำเว็บไซต์แบบ Mobile Friendly เพื่อให้เว็บไซต์รองรับกับระบบกรเปิดผ่านสสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญ และมนุษย์ทุกคนใช้มันในจำนวนที่ไม่ต่างจากเดสท็อปไปซะแล้ว เรามาดูกันดีกว่าเว็บไซต์แบบ Mobile Friendly นั้น ยังมีความจำเป็นแค่ไหน และต้องออกแบบเว็บไซต์ในรูปแบบไหน ถึงจะรองรับ และได้มาตรฐาน Mobile Friendly ในปี 2022 นี้
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
MOBILE FRIENDLY คืออะไร? ตอบคำถามสำหรับมือใหม่แบบรวบรัด
แม้ว่าใครหลาย ๆ คนจะทราบแล้วว่า Mobile Friendly นั้นคืออะไร แต่เราก็อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ อธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับ Mobile Friendly กันใหม่ สำหรับมือใหม่ในการทำเว็บไซต์ที่บังเอิญได้เข้ามาอ่านในบทความนี้ Mobile Friendly หรือความเป็นมิตรกับโทรศัพท์มือถือ หากแปลตรงตัวแบบนี้คงจะมีงง ๆ กันบ้าง แต่แท้จริงแล้วความหมายก็อาจจะไม่ได้หนีไปนี้มากนัก เพราะ Mobile Friendly คือการออกแบบเว็บไซต์ให้ออกมารองรับ และสามารถแสดงผลผ่านโทรศัพท์มือถือได้เป็นอย่างดีนั่นเอง กล่าวคือเมื่อคุณใช้โทรศัพท์มือถือเปิดเว็บไซต์ ขนาดของหน้าจอ รูปภาพ และข้อความแสดงผลในขนาดที่พอดี ไม่ต้องใช้ฟังก์ยืด หรือขยายเข้ามาช่วย ระบบนำทาง (Navigation Menu) ด้านบนที่มักจะเป็น หน้าแรก เกี่ยวกับเรา สินค้า ติดต่อเรา ปุ่มพวกนี้กดได้ ไม่ถูกอะไรบดบังและใช้งานได้ดี ทั้งหมดนี้ก็เป็นเบื้องต้นของ คอนเซ็ปต์ Mobile Friendly ที่มือใหม่ทุกคนควรจะทราบไว้
MOBILE FRIENDLY ยังสำคัญหรือไม่ในปี 2022 นี้?
การสร้างเว็บไซต์ที่เป็น Mobile Friendly ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างแน่นอนในปี 2022 นี้ อีกทั้งยังสำคัญมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากมีการสำรวจและค้นพบว่า จำนวนของการใช้โซเชียลมีเดีย รวมทั้งการเข้าถึงเว็บไซต์จากโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนั้น เติบโตขึ้นอย่างมาก จนในปี 2022 นี้ ยอดการเข้าถึงเว็บไซต์จากโทรศัพท์มือถือนั้นมากกว่าเดสท็อปแล้ว (อ้างอิงจาก Statecounter)
ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่น่าแปลกใจเท่าไหร่ กลับกันมันเป็นสิ่งที่มีหลายสำนักคาดการณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นในปี 2022 นี้ หลาย ๆ เว็บไซต์จะต้องมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเว็บไซต์ของตัวเองให้
ต้องทำอย่างไร ให้เว็บไซต์เป็น MOBILE FRIENDLY ที่ดี?
1. ใช้การออกแบบที่เรียบง่ายแต่มีสไตล์
เพื่อให้เว็บไซต์สามารถแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด การออกแบบมีส่วนสำคัญอย่างมาก ควรที่จะเน้นการดีไซน์ที่เรียบง่ายเข้าไว้ ไม่จำเป็นต้องทำไอค่อน หรือปุ่มเชื่อมลิงก์จากเดสท็อปมาทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องนำภาพกราฟิกใหญ่โตจากเดสท็อปมาใส่ ควรออกแบบใหม่เพื่อใช้เฉพาะกับโทรศัพท์มือถือ นอกจากจะช่วยเรื่องความสบายตาเมื่อต้องเว็บไซต์ผ่านโทรศํพท์มือถือที่มีหน้าจอเล็กกว่าเดสท็อปแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของการดาวน์โหลดเว็บไซต์ (Page Speed) อีกด้วย
2. ปรับปรุง PAGE SPEED
ในส่วนนี้จะค่อนข้างยึดโยงกับข้อที่ผ่านมา เนื่องจากการดาวน์โหลดหน้าเว็บไซต์ หรือ Page Speed ที่ดีนั้น มีปัจจัยมาจากการออกแบบ การเลือกใช้องค์ประกอบต่าง ๆ ในหน้าเว็บไซต์ ทั้งนี้ นอกจากการออกแล้ว ระบบหลังบ้าน หรือการเลือกใช้ไฟล์ต่าง ๆ ก็สำคัญ เลือกใช้ไฟล์ที่บีบอัดขนาดเล็กกว่าเดสท็อป จะเหมาะสมกับโทรศัพท์มือถือ ทำให้แสดงผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดาวน์โหลดไม่ช้า และเล่นได้ลื่นไหลมากกว่า
3. ใช้ RESPONSIVE DESIGN เข้ามาช่วย
Responsive Design เป็นรูปแบบการทำเว็บที่สามารถรองรับการแสดงผลเว็บไซต์ได้บนทุกอุปกรณ์ แต่จะต่างกับแบบ Mobile Friendly ตรงที่เจ้าตัวจะใช้รูปแบบทั้งหมดถอดแบบมาจากเว็บไซต์บนเดสท็อป นั่นหมายความว่า ในกระบวนการออกแบบเริ่มต้นนั้น Responsive Design ต้องมีการออกแบบที่เหมาะสมกับทั้งรูปอุปกรณ์ ในขณะที่ Mobile Friendly นั้น เป็นรูปแบบการทำเว็บที่แยกระบบ และโครงสร้างต่าง ๆ ของเดสท็อป และโทรศัพท์มือถือออกจากกันอย่างชัดเจน ทั้งนี้ Responsive Design นั้นสามารถรองรับได้ทุกขนาดหน้าจอ เป็น Mobile Friendly ได้เช่นกัน แต่หากมีการพัฒนาที่ไม่ชำนาญ และไม่ระมัดระวัง การแสดงผลต่าง ๆ อาจเกิดบั๊ก ล่าช้า และ Error ได้ง่ายกว่าแบบ Mobile Friendly
4. หลีกเลี่ยงข้อความที่ยาว และเยอะจนเกินไป
เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาแน่นทุกกระเบียดนิ้ว มีตัวอักษรที่เบียดเสียดจนมองไม่เห็นช่องไฟ เว็บไซต์ประเภทนี้จะทำให้เว็บไซต์รองรับกับการเป็น Mobile Friendly ได้ยาก เนื่องจากผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ในขนาดหน้าจอที่เล็ก เมื่อมาเจอกับเนื้อหาที่อัดแน่นจนเกินไป นอกจากจะทำให้การโหลดเว็บช้าแล้ว ยังทำให้ผู้เข้าชมหมดกำลังใจที่จะอ่านเนื้อหาเหล่านั้น และกดออกเว็บไซต์ไปในที่สุด
5. อย่าลืมที่จะใส่ SEARCH BAR
ช่องการค้นหา หรือ Search Bar เป็นอะไรที่สำคัญกับ Mobile Friendly สุด ๆ เพราะอย่างน้อย ๆ หากคุณไม่สามารถออกแบบเว็บไซต์ให้ดูรองรับการแสดงผลบนจอโทรศํพท์มือถือได้ดีเท่าที่ควร การมี Search Bar เข้ามาช่วย จะทำให้ผู้ใช้งานมองข้ามส่วนอื่น ๆ และใช้ Search Bar ในการค้นหาและบริการต่าง ๆ ของเราแทน
6. คอยตรวจสอบ CORE WEB VITALS อยู่อย่างสม่ำเสมอ
Core Web Vitals คือการให้คะแนน UX ที่สามารถตรวจสอบได้จาก Google Search Console โดยค่าที่เราควรใส่ใจ และตรวจสอบบ่อย ๆ คือ..
- Loading Performance ประสิทธิภาพในการดาวน์โหลดเว็บไซต์
- Responsiveness สัมผัสแรกในการเลื่อนฟีดเว็บไซต์ไหลลื่นหรือไม่
- Visual Stability การเคลื่อนไหวขององค์ประกอบภายในเว็บไซต์ Transition ต่าง ๆ ไหลลื่นดีหรือไม่
หากคะแนนเหล่านี้ต่ำจนเกินไป อาจเกิดจากการใช้ไฟล์ขององค์ประกอบต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ที่ใหญ่เกินไป Core Web Vitals จะบอกจุดผิดพลาดในส่วนนี้เพื่อให้เราแก้ไขได้
7. คอยตรวจสอบ MOBILE USABILITY
Mobile Usability เป็นระบบตรวจสอบเว็บไซต์รูปแบบโทรศัพท์ที่เป็นฟังก์ชันภายใน Google Search Console เช่นเดียวกับ Core Web Vitals เพียงแค่ Mobile Usability จะคอยดักจับข้อผิดพลาด บั๊ก หรือ Error ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในการแสดงผลเว็บไซต์บนโทรศัพท์มือถืออย่างละเอียด
8. TEST เว็บไซต์อยู่เสมอ
ในทุก ๆ ครั้งที่มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในเว็บไซต์ อย่าลืมที่จะเทสต์ระบบต่าง ๆ ทั้ง UI และ UX โดยสมมติว่าเราคือผู้ใช้งานจริง ๆ คนหนึ่ง เพื่อจะได้เห็นจุดผิดพลาด และข้อบกพร่องที่เราจะสามารถนำมาแก้ไขได้
สรุปสุดท้ายนี้ หากคุณคิดที่จะทำเว็บไซต์สักเว็บในปี 2022 คุณจะต้องไม่ลืมการทำให้เว็บ ๆ นั้นรองรับการแสดงผลผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือเป็น Mobile Friendly เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าในปัจจุบัน มียอดผู้ใช้งานเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือมากกว่าเดสท็อปแล้ว หากคุณต้องการ Traffic ที่ดี เพื่อกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจของคุณ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าลืมตรวจสอบและปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้เป็น Mobile Friendly ที่ดี
หากคุณกำลังมองหาบริษัทรับทำเว็บไซต์ให้รองรับกับ Mobile Friendly ที่ได้ดี ได้มาตรฐาน ไม่เกิดปัญหาขณะใช้งาน 1001 Click เราคือบริษัทรับทำเว็บไซต์ให้รอบรับกับรูปแบบ Mobile Friendly ดูแลผ่านทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในแวดวงเว็บไซต์มากว่า 17 ปี มีการอัปเดตความรู้ตลอดเวลา พร้อมส่งต่อเว็บไซต์คุณภาพถึงมือคุณอย่างแน่นอน สนใจรายละเอียด หรืออยากสอบถามเกี่ยวกับบริการรับทำเว็บไซต์ให้รับรอง Mobile Friendly สามารถติดต่อเราได้ที่เว็บไซต์ 1001 Click
- สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com