สร้างเว็บไซต์อย่างไร ให้รองรับ SEO
สร้างเว็บไซต์เสร็จแล้วใช่ว่าทุกอย่างจะจบ การตลาดหรือการโปรโมตก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเช่นกัน หนึ่งในกระบวนการทางการตลาดที่ทุกวันนี้คนทำเว็บไซต์คงไม่มีใครไม่รู้จัก และกระบวนการนั้นมีชื่อเรียกว่า SEO เพราะฉะนั้นในบทความนี้ 1001 Click จะมาปูพรมพาทุกคนไปรู้จักกับการสร้างเว็บไซ์อย่างไร ให้ส่งเสริมการตลาดแบบ SEO ไปพร้อม ๆ กัน
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
การสร้างเว็บไซต์ให้รองรับ SEO คืออะไร
สำหรับการสร้างเว็บไซต์เพื่อทำ SEO หรือ Search Engine Optimization นั้น คอนเซ็ปต์จริง ๆ ของการตลาดรูปแบบนี้คือการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีคุณภาพดีที่สุด ครอบคลุมทั้งในแง่ของระบบหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถมองเห็นได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ เนื้อหา ปุ่มกด หรือฟังก์ชันต่าง ๆ รวมไปถึงระบบหลังบ้าน หรือระบบโค้ดต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานไม่สามารถมองเห็น แต่เป็นเหมือนฟันเฟืองในการรันระบบเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการขนาดไฟล์ ความเร็วในการดาวน์โหลดเว็บไซต์ การติดตั้งปลั๊กอิน และการติดตั้งส่วนเสริมต่าง ๆ สำหรับเว็บไซต์ตามกฏเกณฑ์จาก Google Algorithm โดยตรง
SEO จำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์ด้วยวิธีการไหน
สำหรับการทำ SEO นั้น วิธีการสร้างเว็บไซต์ไม่ใช่สิ่งสำคัญ คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ HTML ด้วยการเขียนโค้ดล้วน ๆ ก็สามารถทำ SEO ได้ หรือจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ประเภท Template หรือที่นิยมกันอย่าง Wordpress ก็สามารถทำ SEO ได้ด้วยเช่นกัน แต่ความยากง่ายของเว็บไซต์แต่ละประเภท ก็จะแตกต่างกันออกไป
สำหรับการทำเว็บไซต์ประเภท HTML หรือโค้ดดิ้งล้วน ๆ นั้น จะสามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้หลากหลาย และพัฒนาศักยภาพเว็บไซต์ได้มากกว่า Wordpress แต่ก็จะใช้งานได้ยากกว่า เนื่องจากโค้ดดิ้งนั้นเป็น Hard Skill ที่ไม่ใช่ว่าใครก็ทำได้ หรือไม่สามารถเรียนรู้ได้ในช่วงข้ามคืน ทำให้ต้องใช้ทีมงานมืออาชีพเข้ามาดูแลในส่วนนี้
สำหรับเว็บไซต์ประเภท Template หรือ Wordpress โดยทั่วไป หากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง การใช้ Wordpress นั้นค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากมีราคาในการสร้างเว็บที่ถูกกว่าเว็บที่เขียนโดยโค้ดล้วน ๆ รวมไปถึงการจัดการเว็บไซต์อย่างการปรับเปลี่ยนเนื้อหาต่าง ๆ ทั้งข้อความ รูปภาพ และระบบหลังบ้านที่มีปลั๊กอินส่วนเสริมที่สนับสนุนธุรกิจประเภท E-Commerce อย่างสุด ๆ นั้นก็ใช้งานง่ายอีกด้วย ทั้งหมดนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้ Hard Skill อะไรมากมาย เจ้าของธุรกิจสามารถเรียนรู้การใช้งานระบบหลังบ้านเว็บไซต์ได้ด้วยตนเองโดยใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตาม ในแง่ของศักยภาพนั้น อาจจะยังแพ้เว็บไซต์ที่ใช้โค้ดดิ้งล้วน ๆ อยู่นิดหน่อย มีอิสระในการปรับแต่งที่น้อยกว่า และใช้ทรัพยากรที่มากกว่าพอสมควร แต่ในปัจจุบัน Wordpress เองก็มีการพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเรื่องความเสถียร และอิสระในการปรับแต่ง ทำให้ไม่แน่ในสักวัน ก็อาจจะกลายมาเป็นทางเลือกหลัก หรือทางเลือกที่ดีที่สุดในการสร้างเว็บไซต์ก็เป็นได้
7 ปัจจัย สร้างเว็บไซต์อย่างไรรองรับ SEO
1. มีพื้นที่ในการใส่เนื้อหาประเภทตัวหนังสือ
หลาย ๆ คน อาจจะไม่ชอบให้เว็บไซต์ของตนมีตัวหนังสือติดกันยาวเป็นพืดจนเกินไป แต่หนึ่งในกลไกสำคัญของการทำ SEO นั้น คือเนื้อหาประเภทตัวหนังสือ เพื่อสอดแทรก Keyword หรือคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราลงไปในเนื้อหาของหน้าเว็บไซต์ เพราะฉะนั้นการสร้างเว็บไซต์ให้มีพื้นที่สำหรับใส่เนื้อหาประเภทตัวหนังสือนั้นสำคัญมาก รวมไปถึงการสร้างหน้าบทความ หรือหน้าข่าวสารสำหรับอัปเดตเนื้อหา ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำ SEO ด้วยเช่นกัน
2. ควบคุม PAGE SPEED
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่ดีสำหรับการทำ SEO และดีสำหรับตัวเว็บไซต์เองด้วยนั้นคือการควบคุม Page Speed ไม่ให้ช้าจนเกินไป โดยส่วนใหญ่นั้นสามารถที่เว็บไซต์หน่วง หรือใช้เวลาการดาวน์โหลดเพื่อแสดงผลนานมักจะเกิดจากไฟล์ภาพ หรือกราฟิกขนาดใหญ่ แก้ได้ด้วยการพยายามใช้ภาพที่ย่อขนาด ภาพ Next Gen หรือภาพสกุล .Webp ที่เหมาะสำหรับงานเว็บไซต์โดยเฉพาะ ท่านใดสนใจทดสอบความเร็วของเว็บไซต์ตนเอง สามารถเทสได้ที่ PageSpeed Insights ได้เลย
3. <HEADING TAG>
ทำความรู้จักกับ Heading Tag หรือการตั้งค่า H1-H5 ให้กับทุกหัวข้อในทุก ๆ หน้าเว็บไซต์ โดย Heading Tag นั้นไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนแต่อย่างใด หากพูดให้เข้าใจง่าย ๆ เร็ว ๆ นั้นก็คือ การลำดับความสำคัญของหัวข้อต่าง ๆ ภายในหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูล และรับรู้ได้ว่าเว็บไซต์ในแต่ละหน้าของเรานั้นเน้นเรื่องอะไร และเกี่ยวกับอะไรนั้นเอง
4. จัดระเบียบ SITEMAP.XML
สำหรับ Sitemap.xml หรือการลำดับหน้าเว็บไซต์ในทุก ๆ การเชื่อมลิงก์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องใช้สำหรับการทำ SEO เช่นกัน หากมีการจัดทำ Sitemap.xml อย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้น จะทำให้ Google Bot เข้าถึงข้อมูลเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น ทำให้การเก็บข้อมูลไปจัดอันดับนั้นเป็นไปโดยง่าย อาจส่งผลให้เว็บไซต์มีอันดับการค้นหาที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
5. MOBILE FRIENDLY & RESPONSIVE WEBSITE
การสร้างเว็บไซต์ให้รองรับการเปิดผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ อาทิสมาร์ทโฟน ไอแพด หรือแท็บเล็ตได้ โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องซูมเข้าซูมออก หรือไม่มีการเกิด Bug ใด ๆ ก็สร้างข้อได้เปรียบ และเป็นส่วนสำคัญมาก ๆ อันดับต้น ๆ ในการทำ SEO เช่นกัน
6. ติดตั้ง SEO PLUG IN สำหรับเว็บไซต์ WORDPRESS
ในข้อนี้เราจะเน้นกันที่เว็บไซต์ Template ยอดฮิตอย่าง Wordpress เป็นหลัก โดยการติดตั้งปลั๊กอินอย่าง Yoast หรือ Rankmath ซึ่งเป็นปลั๊กอินที่สนับสนุนการทำ SEO อย่างเต็มรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นปลั๊กอินที่จำเป็นจะต้องมีสำหรับคนทำเว็บไซต์เพื่อรองรับ SEO เลยก็ว่าได้
7. ติดตั้ง GOOGLE SEARCH CONSOLE
หลังจากเว็บไซต์เป็นรูปเป็นร่าง การนำเว็บไซต์ไปเชื่อมต่อกับ Google Search Console เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพเว็บไซต์ ใช้ได้ฟรีจาก Google โดยจะใช้เพื่อตรวจสอบเว็บไซต์โดยละเอียด ตั้งแต่ Traffic อันดับเว็บไซต์ ไปจนถึงการตรวจสอบ Error ต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว
โดยทั้ง 7 ปัจจัยนี้ เป็นพื้นฐานโครงสร้างเว็บไซต์ ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำ SEO โดยคุณผู้อ่านสามารถลิสต์หัวข้อตามนี้ ไปปรับใช้เป็นบรีฟโครงสร้างเว็บไซต์ของตนเองได้ แต่ยังไงก็ตาม อย่างที่กล่าวไปว่านี่เป็นเพียงโครงสร้างพื้นฐานเพียงเท่านั้น ในส่วนของการปรับแต่ง และส่วนที่ต้องเติมเสริมเข้าไปหลังการสร้างเว็บไซต์เสร็จสิ้นแล้วนั้น เราจะมาแบ่งปันเทคนิคกันในบทความต่อ ๆ ไปของ 1001 Click
1001 Click เราคือบริษัทรับสร้างเว็บไซต์ทุกรูปแบบ มีบริการรับทำ SEO & Google Ads และ Hosting ครบวงจร เป็นผู้ให้บริการ One Stop Service สำหรับงานสร้างเว็บไซต์ สนใจสร้างเว็บไซต์ และทำการตลาดไปพร้อม ๆ กันสามารถดูรายละเอียดบริการ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ 1001 Click
- สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com