HOSTING คืออะไร รู้ไว้ก่อนใช้บริการเช่า WEB HOSTING!

WEB HOSTING คืออะไร

ไขข้อข้องใจของคำถามที่ว่า Web Hosting คืออะไร - โฮสติ้ง (Web Hosting) เป็นบริการจัดเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ส่วนตัวหรือเว็บไซต์องค์กร โดยเว็บโฮสติ้งนั้นทำหน้าที่ทั้งให้บริการจัดเก็บข้อมูล และเป็นดั่งที่ตั้งเพิ่อให้เว็บไซต์นั้น ๆ สามารถแสดงผลบนบราวเซอร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

การจัดเก็บฐานข้อมูลของเว็บโฮสติ้งนั้น ทุกอย่างจะถูกจัดเก็บไว้ในพื้นที่ที่เรียกว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) และแต่ละเว็บไซต์จะมีการแบ่งแยกการจัดเก็บอย่างชัดเจนด้วยชื่อโดเมน โดยที่ผู้คนภายนอก หรือผู้ที่ต้องการชมเว็บไซต์ทั่วไปสามารถใช้ชื่อโดเมนเพื่อเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้โดยตรง

สำหรับการเลือกใช้บริการหลังจากที่เรียนรู้เบื้องต้นแล้วว่า Web Hosting คืออะไรนั้น คุณจำเป็นที่จะต้องทราบถึงรายละเอียดปลีกย่อยของลักษณะ Web Hosting แต่ละประเภทก่อน เพราะ Web Hosting แต่ละประเภทนั้นมีคุณสมบัติ และความดีความชอบแตกต่างกันดังนี้…

ประเภทของ WEB HOSTING คืออะไร และมีรูปแบบไหนเป็นที่นิยมบ้าง

บริการโฮสติ้งในรูปแบบแชร์พื้นที่ เป็นบริการในรูปแบบฝากข้อมูลเว็บไซต์ภายใต้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันกับเว็บไซต์อื่น ๆ ข้อดีของเว็บโฮสติ้งรูปแบบนี้ คือมีราคาแพ็คเกจที่ค่อนข้างถูก อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการที่จะคอยดูแลระบบเน็ตเวิร์ก และความเสถียรต่าง ๆของโฮสติ้งที่ส่งผลโดยตรงกับเว็บไซต์ให้ด้วย

1. SHARED WEB HOSTING

บริการโฮสติ้งในรูปแบบแชร์พื้นที่ เป็นบริการในรูปแบบฝากข้อมูลเว็บไซต์ภายใต้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันกับเว็บไซต์อื่น ๆ ข้อดีของเว็บโฮสติ้งรูปแบบนี้ คือมีราคาแพ็คเกจที่ค่อนข้างถูก อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการที่จะคอยดูแลระบบเน็ตเวิร์ก และความเสถียรต่าง ๆของโฮสติ้งที่ส่งผลโดยตรงกับเว็บไซต์ให้ด้วย

ทั้งนี้ Shared Web Hosting ก็มีข้อจำกัดบางอย่างในการใช้งาน

1. ไม่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขององค์กรขนาดใหญ่ที่มี Traffic จำนวนมาก ๆ เพราะอาจจะทำให้เว็บไซต์แสดงผลได้ช้า และล่มได้ เนื่องจากทรัพยากรในการดูแลระบบจะต้องแชร์ไปให้กับเว็บไซต์อื่น ๆ ภายในเซิร์ฟเวอร์ด้วย
2. พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลนั้นมีค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่สามารถใส่ข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ไป หรือไม่สามารถใส่โค้ดบางรูปแบบได้
3. เนื่องจากเป็นเซิร์ฟเวอร์ร่วม หากเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่งภายใต้เซิร์ฟนี้ติดไวรัส อาจจะทำให้เว็บไซต์อื่น ๆ ที่แชร์โฮสร่วมกันโดนไวรัสไปด้วย

2. VIRTUAL PRIVATE SERVER (VPS)

หลาย ๆ ท่านอาจจะคุ้นหูกันอยู่แล้วสำหรับ VPS ที่ย่อมาจาก Virtual Private Server โฮสติ้งเว็บไซต์ประเภทนี้นั้นค่อนข้างเป็นที่นิยมสูงในปัจจุบัน เนื่องจากรูปแบบการบริการที่เรียกกันว่าเป็น เซิร์ฟเวอร์เสมือน ใช้งานได้คล้ายกับการเปิดเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง กล่าวคือไม่ต้องแชร์ทรัพยากรร่วมกับเว็บไซต์อื่น ๆ นั่นเอง และด้วยเหตุนี้ ทำให้เป็นประเภทโฮสติ้งที่ค่อนข้างทำอะไรได้อิสระ และหลากหลายในราคาค่างวดที่ค่อนข้างเป็นมิตร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่มากกว่า Shared Web Hosting ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาเว็บล่มมากนักเนื่องจากมีระบบที่ค่อนข้างเสถียรและไม่ต้องใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกับใคร ลงโค้ดเฉพาะทาง หรือโปรแกรมแบ็คอัพต่าง ๆ ได้มากมาย

ทั้งนี้ Virtual Private Server ก็มีข้อจำเป็นในการดูแลระบบอยู่
สำหรับ VPS นั้น จำเป็นจะต้องใช้บริการจากผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจในการบริหารระบบเน็ตเวิร์กที่ชำนาญ เนื่องจาก VPS ต้องใช้การดูแลระบบที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ไม่ต่างจากการมีเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง ต้องติดตั้งโปรแกรมและซอร์ฟแวร์ตต่าง ๆ บนเครื่องเซิร์ฟได้อย่างถูกต้องทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาเซิร์ฟเวอร์เสียหาย

3. DEDICATED SERVER

นี่ไม่ใช่การเช่าเพียงแค่เว็บโฮสติ้งแต่อย่างใด แต่เป็นการเช่าเครื่อง Server มาเป็นของเราทั้งเครื่องเลย โดยที่เราจะสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ การทำเว็บใหญ่ ๆ ที่มี Traffic หลักแสนก็ไม่เป็นปัญหา ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในส่วนของการเช่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้นก็จะมีราคาที่แพงขึ้นมากกว่า Shared Web Hosting และ Vertual Private Sercvice แต่มีการใช้งานที่เป็นอิสระ ปลอดภัย และความแรง และความเสถียรเราสามารถปรับแต่งได้

ทั้งนี้ Dedicated Server ก็มีข้อจำเป็นในการดูแลระบบอยู่

1. มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
2. ผู้เช่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ต้องมีทีมงานที่มีความชำนาญในการดูแลเน็ตเวิร์กโดยเฉพาะ เพราะต้องทำทุกอย่างไม่ต่างจากการมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง
3. การจะปรับแต่งความแรงของเซิร์ฟเวอร์ทำได้ด้วยการซื้ออุปกรณ์มาติดเอง นึงอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนนี้

4. COLOCATED HOSTING

สำหรับรูปแบบนี้มีความคล้ายกับ Dedicated Server เพียงแต่จะต่างตรงที่เราไม่ใช่เพียงแค่ผู้เช่า แต่เราเป็นเจ้าของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือเรามีเครื่องเซิร์ฟเวอร์ และที่ตั้งเป็นของส่วนตัวนั่นเอง โดยค่าใช้จ่ายจะสูงที่สุดในประเภทเว็บโฮสติ้งทั้งหมด เนื่องจ่ากค่าใช้จ่ายทุกอย่างตั้งแต่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ การเช่าที่ตั้งเครื่อง การดูแลระบบ การต่อเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซิร์ฟนั้นเราต้องเป็นผู้ดูแลเองทั้งหมด เหมาะสำหรับองค์กร หรือธุรกิจเจ้าใหญ่ที่เว็บไซต์มี Traffic จำนวนมาก และต้องการอิสระให้การปรับแต่งเน็ตเวิร์กตามใจต้องการ

ทั้งนี้ Colocated Hosting ก็มีข้อจำเป็นในการดูแลระบบอยู่

1. มีค่าใช้จ่ายที่สูง
2. ผู้เช่าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ต้องมีทีมงานที่มีความชำนาญในการดูแลเน็ตเวิร์กโดยเฉพาะ เพราะต้องทำทุกอย่างไม่ต่างจากการมีเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง
3. มีสถานที่ตั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์

โดยทั้ง 4 รูปแบบนี้ เป็นประเภท Web Hosting ที่ครอบคลุมและถูกใช้มากที่สุด โดยไล่จากถูกที่สุด ไปจนถึงแพงที่สุด ทั้งนี้คุณภาพก็จะต่างกันไปตามราคา และทุนของแต่ละบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่ได้มีเครื่องเซิร์ฟเวอร์เป็นของตัวเอง การเลือกใช้บริการษริษัทให้เช่า Web Hosting นั้น ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม คุณควรเลือกบริษัทมีคุณภาพ และมีความชำนาญเฉพาะทางในการดูแลระบบเน็ตเวิร์ก เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคุณได้