การปรับตัวของธุรกิจบนเว็บไซต์ E-COMMERCE ทำยังไงถึงจะอยู่รอด!
ในทุก ๆ วันที่ร้านค้าบน Market Share Website เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นั้น เป็นที่กังวลกันว่าแล้วเว็บไซต์ E-Commerce เจ้าเล็ก ๆ ของเรานั้นจะอยู่รอดได้อย่างไร ต้องปรับตัวไปในทิศทางไหนถึงจะอยู่รอดไปด้านอย่างยั่งยืน 1001 Click ขอใช้โอกาสนี้ มาแชร์ทริคการปรับตัวของธุรกิจ E-Commerce บนเว็บไซต์ ทำยังไงให้อยู่รอด ทำยังไงให้ไม่แพ้เว็บไซต์ Market Share เจ้าใหญ่ มาดูกัน!
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
6 เทคนิคการปรับตัวสำหรับคนทำธุรกิจบนเว็บไซต์ E-COMMERCE
1. CUSTOM MADE WEBSITE BETTER
แม้ว่าระบบเว็บไซต์ในรูปแบบเทมเพลตนั้น จะมีกระแสในเรื่องการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีปลั๊กอินมากมายที่ออกตัวว่าจะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับเว็บไซต์ของคุณ แต่ว่ากันตามจริงแล้ว ปลั๊กอินทั้งหลายแม้จะช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับคุณได้จริงตามที่กล่าวมา แต่ก็มีข้อจำกัดอีกมากมายหลายอย่างที่ทำให้คุณไม่สามารถปรับแต่งเว็บไซต์ได้อย่างอิสระอยู่ รวมไปถึงปัญหาเรื่อง PageSpeed เว็บไซต์ที่จะตามมาอีกด้วย
การทำเว็บแบบ Custom Made คือทางออก และตัวเลือกที่น่าสนใจ และเป็นอาวุธที่ดีในการสู้รบบนสมรภูมิการแข่งขันของเว็บไซต์ E-Commerce ที่ดุเดือดในขณะนี้ เพราะปรับแต่งได้อิสระอย่างแท้จริง ควบคุม PageSpeed ได้ง่าย สร้างเอกลักษณ์ และพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้อย่างไร้ขอบเขตุ เป็นตัวเลือกที่คนทำเว็บไซต์ E-Commerce ยุคใหม่นิยมใช้กัน
2. ORGANIZE CATEGORIES
จินตนาการว่าเว็บไซต์ E-commerce ของคุณคือหน้าร้านที่มีสินค้าวางจำหน่ายอยู่มากมาย แต่จะเป็นประโยชน์อย่างไรหากสินค้าเหล่านั้นวางอยู่อย่างไม่เป็นระเบียบ และลูกค้าไม่สามารถหาสินค้าที่ตัวเองต้องการได้เจอ เพราะฉะนั้นการวางระบบ และออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ให้เข้าใจง่ายที่สุด มีการจัดหมวดหมู่หลัก หมวดหมู่ย่อย เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงสินค้าให้ง่ายที่สุด จะช่วยเปิดโอกาสให้การซื้อขายเกิดขึ้นบนเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
3. UX COPYWRITING
ในปัจจุบัน อาชีพ UX Copywriting เริ่มมีบทความ และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยหน้าที่ของผู้ชำนาญในด้านการทำ UX Copywriting นั้น จะมีทักษะในการคิดคำสั้นเพื่อวางไว้บนปุ่ม CTA ( Call to action ) ต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ รวมไปถึงการเขียนขั้นตอนการใช้งานระบบต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์จากเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย เพื่อสนับสนุนประสบการณ์ใช้งานเหล่าผู้ใช้งานที่เข้ามายังเว็บไซต์ E-commerce ของเรานั่นเอง
4. REVIEW SNIPPET
หนึ่งในกระบวนการจากการตลาด SEO หรือการทำ Review Snippet เป็นเทคนิคการแสดงพื้นที่รีวิวให้ผู้ใช้งานได้เห็นตั้งแต่หน้า Google Search Result การมีหน้าต่างแสดงข้อมูลรีวิวในส่วนนี้เพิ่มขึ้นมาจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณบนหน้าต่างการค้นหาของ Google ดูน่าเชื่อถือ และถือเป็นลูกเล่นที่เว็บไซต์ E-Commerce นิยมใช้งานกันมากขึ้นนั่นเอง แถมวิธีการทำงั้นก็ง่ายแสนง่าย เพียงใช้โค้ดชุดเล็ก ๆ ก็สามารถทำได้แล้วนั่นเอง
5. ALT TEXT
การค้นหาบนโลกออนไลน์นั้นมีการอัปเดต Algorithm อยู่ตลอดเวลา เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ และตรงตามความเข้าการของเหล่าผู้ใช้งานมากที่สุด และในปัจจุบัน ผลของการเสิร์ชที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงสินค้าของคุณได้นั้น ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การค้นหาแบบตัวอักษรอีกต่อไป
ALT Text คือการใส่ข้อมูลตัวอักษร เพื่ออธิบายรูปภาพที่ใช้ภายในเว็บไซต์ ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยสนับสนุนให้ผู้ใช้ที่เสิร์ชข้อความตัวอักษร ก็สามารถพบเจอผลลัพธ์ที่เป็นรูปภาพจากเว็บไซต์ของคุณได้ด้วยนั่นเอง สมมุติว่าในสินค้าภายในร้านค้าบนเว็บไซต์ E-Commerce ของคุณมีมากกว่า 100 ชิ้น ภาพประกอบย่อมต้องมีจำนวนมากตามไปด้วยเช่นกัน ซึ่งโอกาสจากผลลัพธ์ที่ผู้คนจะเสิร์ชมาพบรูปภาพสินค้าตัวใดตัวหนึ่งของคุณมี โอกาสเกิดขึ้นได้มากอย่างแน่นอน
6. SHOT & LONG DESCRIPTION PRODUCT
คำอธิบายสินค้า คือสิ่งสำคัญที่คุณจะขาดไปไม่ได้ หนึ่งในเทคนิคการขายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้น คือการอวดอ้างสรรพคุณสินค้า และแน่นอนว่าสำหรับเว็บไซต์ E-Commerce ที่ไม่มีหน้าม้ามาขายของให้กับคุณนั้น การทำคำอธิบายสินค้าให้ออกมาดีที่สุดย่อมเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความสนใจให้กับสินค้า และทำหน้าที่ช่วยขายของให้กับคุณ
หากเนื้อหา หรือคำอธิบายสินค้านั้นยาวเกินไป ย่อมมีโอกาสที่เหล่าผู้ใช้งานอาจจะทำใจอ่านไม่ลง กลับกันหากสั้นเกินไปจนอ่านไม่ได้ใจความ หรืออวดสรรพคุณสินค้าได้ไม่มากพอสินค้าก็อาจจะไม่น่าสนใจด้วยเหมือนกัน ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือการจัดเตรียมเนื้อหาไว้ให้ครบทั้งสองแบบ จัดวางเนื้อหาที่สั้น กระชับไว้ในเซคชั่นเดียวกับสินค้า เพื่อให้ผู้ใข้งาน หรือลูกค้าได้อ่านเร็ว ๆ เพื่อทำความเข้าใจสินค้า และวางเนื้อหาแบบยาวไว้ในจุดใกล้ ๆ กัน เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการอ่านเนื้อหาสินค้าแบบยาว ๆ ครบถ้วน
มนุษย์ต้องหมั่นพัฒนาศักยภาพตัวเองฉันใด เว็บไซต์ E-Commerce ก็ต้องหมั่นพัฒนาระบบ และการใช้งานฉันนั้น สมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้ที่ไม่พัฒนา เพราะฉะนั้นทั้ง 6 เทคนิคการปรับตัวของเว็บไซต์ E-Commerce ที่เราได้แนะนำคุณไปทั้งหมดด้านบนนี้ เป็นเกณฑ์ที่ดีที่คุณจะนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาศักยภาพเว็บไซต์ของตนเอง
หากคุณกำลังต้องการสร้างเว็บไซต์ E-Commerce ด้วยระบบ Custom Made Website ที่ใช้งานดี ไม่ซ้ำ มีระบบที่เฉพาะตัว และสามารถพัฒนาได้ระยะยาว 1001 Click ยินดีให้บริการ เพราะเรามีประสบการณ์สร้าง และพัฒนาเว็บไซต์ E-Commerce มายาวนานกว่า 17 ปี ผลิตเว็บไซต์มาหลายรูปแบบ แถมยังมีบริการแบบ One-Stop Service ที่จะช่วยสร้างความสะดวกสบายอย่างที่สุดให้กับคุณ สนใจบริการสร้าง และพัฒนาเว็บไซต์ E-Commerce หรือต้องการดูรายละเอียดบริการ ดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รับทำเว็บไซต์ E-Commerce - 1001 Click
- สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาได้ที่ 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com