4 ข้อควรรู้ และ 5 ข้อควรระวัง ใครจะทำเว็บไซต์ใหม่ในปี 2023 อ่านด่วน
การทำเว็บไซต์ใหม่ให้ออกมาดีนั้นตัดสินกันตั้งแต่การที่ผู้ใช้เห็นหน้าเว็บเป็นครั้งแรก จึงต้องสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งานตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน และเนื่องจากในยุคสมัยนี้ที่อะไร ๆ ก็สะดวกรวดเร็วไปหมด เราจึงมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์เกิดการประทับใจ มิฉะนั้นผู้ใช้ก็อาจเปลี่ยนใจปิดเว็บของเราแล้วไปเข้าเว็บของคู่แข่งเอาได้ ด้วยเหตุนี้ การทำเว็บไซต์ใหม่ในปี 2023 นี้ จึงต้องมีการใส่ใจเป็นพิเศษ เราจึงได้รวบรวมข้อควรรู้และข้อควรระวังในการทำเว็บไซต์ใหม่มาให้อ่านกัน
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
ข้อควรระวังในการทำเว็บไซต์ใหม่
จะทำเว็บไซต์ใหม่ทั้งที มาเช็คกันสักหน่อยดีกว่าว่าต้องระวังอะไรกันบ้างที่จะส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ที่เรากำลังจะสร้าง
1. UX/UI ที่ควรหลีกเลี่ยง
UX/UI ที่ดีสำหรับการทำเว็บไซต์ใหม่นั้นสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานได้ แต่ในทางตรงกันข้าม หากออกแบบ UI ออกมาได้ไม่ดี ก็จะทำให้เกิดผลเสียกับเว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ผู้ใช้สับสน หาข้อมูลที่ต้องการไม่เจอ หรือทำให้เกิดความรำคาญ จนทำให้ผู้ใช้เลือกที่จะออกจากเว็บไปหาเอาเว็บอื่นเลยก็มี สิ่งสำคัญหลัก ๆ ที่ควรระวังในการทำเว็บไซต์ใหม่ มีดังนี้
1.1 Auto-play
วิดีโอที่เริ่มเล่นเองโดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ รวมถึงเพลงประกอบหน้าเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ไม่สามารถปิดเองได้ นอกจากจะสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้แล้ว ยังทำให้เว็บไซต์ทำงานหนักขึ้น เป็นการเพิ่มอัตร rebounce หรือการออกจากเว็บไซต์อีกด้วย
1.2 Pop-up
Pop-up เป็นหน้าต่างที่ขึ้นมาบนหน้าจอเว็บไซต์ บางครั้งมีประโยชน์ในการสื่อสารข้อมูลหรือโฆษณา แต่หากมีปริมาณเยอะเกินไปก็จะเป็นสิ่งที่รบกวนผู้ใช้งานเสียมากกว่า ทำให้ผู้ใช้อาจคิดว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ปลอดภัยหรือไม่มีคุณภาพ นอกจากนี้ยังลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ทำให้คะแนนการจัดอันดับ SEO ลดลงอีกด้วย
1.3 Feature เยอะเกินไป
การมีฟีเจอร์มากมายนั้นเป็นเรื่องดี ถ้าผู้ใช้งานใช้เว็บไซต์ของคุณผ่านคอมพิวเตอร์ แต่หากเราออกแบบโดยใส่ฟีเจอร์มากเกินไป ก็อาจจะไปสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ เพราะประสิทธิภาพการทำงานจะลดลง การทำเว็บไซต์ใหม่จึงต้องระวังการใส่ฟฟีเจอร์ต่าง ๆ แต่พอดีเท่านั้น
1.4 เว็บสวยแต่ใช้งานลำบาก
นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดการ rebounce อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากการทำเว็บไซต์ใหม่ที่เน้นความสวยงาม ดูดี แต่ลืมใส่ใจในเรื่องของการใช้งานไป บางทีอาจเป็นเรื่องเล็กน้อยที่แก้ไขได้ง่าย ๆ อย่างการใช้สีตัวอักษรกลืนกับสีพื้นหลังเกินไป แต่ก็เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานเว็บไซต์ ทำให้อ่านเนื้อหาได้ลำบากจนอาจเกิดการเข้าใจผิดได้
2. Page Speed ช้า
Page Speed หมายถึง ความเร็วในการโหลดเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งมีผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้และการจัดอันดับ SEO หากเว็บไซต์ของคุณโหลดช้าเกินไป ผู้ใช้ก็อาจรู้สึกไม่พอใจและออกไปหาเว็บไซต์อื่นที่โหลดได้เร็วกว่าแทนได้ และในส่วนของ SEO ก็จะทำให้คะแนนในการจัดอันดับลดลงด้วย เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับปัจจัยนี้ในการจัดอันดับเว็บไซต์ ดังนั้น ในการทำเว็บไซต์ใหม่ของคุณให้มีผลตอบแทนที่ดี จึงควรปรับปรุง Page Speed ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. ฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่จำเป็น
ฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์หลักของเว็บไซต์ หรือไม่มีประโยชน์สำหรับผู้ใช้ เช่น แอนิเมชันที่ซับซ้อนเกินไป อาจส่งผลเสียต่อเว็บไซต์ได้โดยการทำให้หน้าเว็บโหลดนานขึ้น เปลืองทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ หรือเป็นสาเหตุให้เกิดข้อผิดพลาดหรือความไม่เข้ากันกับบราวเซอร์หรืออุปกรณ์ของผู้ใช้
4. การสะกดคำผิด
การสะกดคำไม่ถูกต้องอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณดูไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่มีความเป็นมืออาชีพ นอกจากนี้ การสะกดคำไม่ถูกต้องยังส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับ SEO อีกด้วย การตรวจสอบและแก้ไขการสะกดคำผิดในการทำเว็บไซต์ใหม่ของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือ
5. มีโฆษณามากเกินไป
โฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ เช่น โฆษณาที่มีกราฟิกกะพริบ หรือเล่นเสียงอัตโนมัติ รววมถึง โฆษณาที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โฆษณาของอุตสาหกรรมทางเพศ การพนัน หรือสแกม นอกจากจะลดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลงแล้วยังทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเว็ปไซต์ของคุณไม่ปลอดภัยอีกด้วย และการมีโฆษณาเยอะเกินไปจะทำให้หน้าเว็บโหลดช้า ดังนั้น การทำเว็บไซต์ใหม่จึงต้องควบคุมการโฆษณาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและไม่ขัดแย้งต่อค่านิยมของสังคมด้วย
ข้อควรรู้ก่อนการทำเว็บไซต์ใหม่
1. ออกแบบให้ดูเรียบง่าย
ถือเป็นการนำเสนอเนื้อหาและฟังก์ชันที่สำคัญ ๆ โดยไม่ต้องมีสิ่งที่เกินจำเป็นหรือทำให้ผู้ใช้งานสับสน ช่วยให้การทำเว็บไซต์ใหม่ของคุณได้มอบประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจกับผู้ใช้ ทำให้หาข้อมูลที่ต้องการได้สะดวกและรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ดูแลเว็บไซต์จัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ และยังช่วยให้ Google Bot ทำความเข้าใจเว็บไซต์ได้ถูกต้องและครบถ้วน เป็นการช่วยเพิ่มอันดับ SEO ไปในตัวอีกด้วย
2. HTTPS
HTTPS คือโปรโตคอลที่ใช้ในการส่งข้อมูลในเว็บไซต์อย่างปลอดภัย โดยการเข้ารหัสข้อมูลด้วย SSL/TLS ซึ่งจะป้องกันการถูกดักจับหรือปลอมแปลงข้อมูลได้ ช่วยเพิ่มความไว้วางใจจากผู้ใช้ เนื่องจาก HTTPS จะแสดงสัญลักษณ์กุญแจสีเขียว หรือคำว่า Secure บนช่อง URL และยังเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่ผู้ใช้กรอกลงในเว็บไซต์ เช่น Username, Password, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น อีกทั้งความปลอดภัยของเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ Google ให้ความสำคัญในการจัดอันดับด้วย ด้วยเหตุนี้ การทำเว็บไซต์ใหม่จึงควรคำนึงถึงความปลอดภัยไว้ด้วย
3. การแสดงผลแบบ Responsive
การทำเว็บไซต์ใหม่ในยุคที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสามารถทำได้จากหลากหลายอุปกรณ์ที่มีขนาดแตกต่างกันไปนั้น การทำให้เว็บไซต์สามารถปรับขนาดให้เข้ากับหน้าจอแต่ละแบบ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ก็ถือเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่ทำให้เว็บไซต์ดูดีและใช้งานง่ายขึ้น แต่ยังมีผลดีต่อการทำ SEO ด้วย เพราะ Google จะให้คะแนนคุณภาพสูงกว่าเว็บไซต์ที่ไม่รองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
4. เปลี่ยนมาใช้ไฟล์ภาพสกุล .SVG
หมดยุคของการใช้ไฟล์ภาพสกุล .PNG มาใช้ในการทำเว็บไซต์ใหม่แล้ว เพราะไฟล์ภาพสกุล .SVG เป็นรูปแบบของภาพเวกเตอร์ ที่สามารถปรับขนาดได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพ ทำให้ภาพดูคมชัดเหมือนเดิมไม่ว่าจะดูจากอุกกรณ์ประเภทไหน นอกจากนี้ ไฟล์ .SVG ยังมีขนาดเล็กกว่าไฟล์รูป .PNG จึงทำให้เว็บไซต์โหลดได้เร็วขึ้น และประหยัดพื้นที่จัดเก็บอีกด้วย
และนี่ก็คือทั้งหมดของ 4 ข้อควรรู้ และ 5 ข้อควรระวัง ในการทำเว็บไซต์ใหม่ในปี 2023 ที่เราได้นำเสนอกันในวันนี้ หวังว่าเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะทำเว็บไซต์ใหม่กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย และสำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับจ้างทำเว็บไซต์ ที่มีประสบการณ์อย่างช่ำชองมากว่า 17 ปีอยู่ล่ะก็ สามารถคลิกเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยที่ https://www.1001click.com/ หรือติดต่อเข้ามาสอบถามได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
- Tel : 081 116 1001
- Line Id : 1001click
- Email : info@1001click.com