พามารู้จัก! 10 คำศัพท์น่ารู้สำหรับมือใหม่ก่อนวางแผนสร้างเว็บไซต์
เว็บไซต์ถือเป็นส่วนสำคัญที่การดำเนินธุรกิจในโลกปัจจุบันเพราะถือเป็นตัวบอกเล่าเรื่องราวของบริษัทและยังเป็นหน้าร้านที่ผู้เข้าใช้สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ตลอด 24 ชม. อีกทั้งยังช่วยความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้อีกด้วย
แม้เว็บไซต์จะเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องมี่ไม่ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “การสร้างเว็บไซต์” นั้นมีความซับซ้อนและก็ยังเป็นสายงานที่เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นจึงมีคำศัพท์เฉพาะทางมากมายที่คนทั่วไปอาจไม่รู้จักหรือคุ้นชินได้ วันนี้ผู้เขียนจึงจะพามีรู้จักคำศัพท์ก่อนที่มือใหม่จะวางแผนสร้างเว็บไซต์ แม้ผู้ปะกอบการมือใหม่จะไม่ได้นำไปใช้เอง แต่ก็ยังสามารถนำไปพูดคุยกับบริษัทที่เราจ้างให้เข้ใาใจได้
ยาวไปอยากเลือกอ่าน
คำศัพท์น่ารู้ก่อนวางแผนสร้างเว็บไซต์
1. โฮสติ้ง (Hosting):
บริการที่ให้พื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์เพื่อเก็บข้อมูลและไฟล์ต่าง ๆ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งโฮสติ้งก็มีหลายประเภท เช่น Shared Hosting, โฮสติ้งแบบ VPS เป็นต้น แม้ว่าจะสร้างเว็บไซต์ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงเพียงใด แต่ถ้าหากการวางแผนสร้างเว็บไซต์ของเราไม่มีโฮสติ้งที่เซิร์ฟเวอร์มีคุณภาพเพียงพอก็จะทำให้การทำงานของเว็บไซต์ไม่ได้ผลตามที่คาดหวังนั่นเอง
2. VPS (Virtual Private Server):
รูปแบบบริการโฮสติ้งที่นิยมในการสร้างเว็บไซต์ เป็นเทคโนโลยีแบ่งแยกทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ให้เป็นหลายส่วน ผู้ใช้สามารถเช่าพื้นที่บนเซิร์ฟเวอร์ที่มีการแบ่งแยกและจำลองเป็นเซิร์ฟเวอร์ไว้แล้วซึ่งจะมีความเสถียรและมีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก VPS นี้สามารถทำให้ผู้ใช้สามารถดำเนินการติดตั้งซอฟต์แวร์และแอพลิเคชันต่าง ๆ ได้อิสระ นอกจากนี้การที่แบ่งทรัพยากรคอมพิวเตอร์ เช่น CPU, RAM, และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลออกจากกันก็จะทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องแบ่งปันทรัพยากรกับผู้ใช้อื่นจึงทำให้ประสิทธิภาพในการดำเนินการมีความเสถียรมากขึ้น ผู้ประกอบการควรเลือก VPS Hosting ที่ดี ให้เหมาะกับธุรกิจของตนให้มากที่สุดเพื่อทำให้การวางแผนสร้างเว็บไซต์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3. เครื่องมือพัฒนาเว็บไซต์ (Development Tools):
โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ด ทดสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น IDE (Integrated Development Environment) หรือ Text Editor เครื่องมือการพัฒนาเว็บไซต์นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. โครงสร้างเว็บไซต์ (Sitemap):
แผนภาพที่แสดงโครงสร้างเว็บไซต์และลำดับของเนื้อหาบนเว็บไซต์เพื่อช่วยในการนำทางและการจัดการเนื้อหา มักประกอบด้วยวันที่สร้าง ความถี่ในการอัปเดต และลำดับของหน้า เป็นต้น ซึ่ง Sitemap ก็มักถูกนำมาใช้ช่วยในการทำ SEO (Search Engine Optimization) เช่นกัน เพราะการสร้าง Sitemap จะทำให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบ ช่วยให้เว็บไซต์สามารถทำให้เครื่องมือค้นหาเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ที่มีความสนใจในเนื้อหาของเว็บไซต์ และช่วยเพิ่มโอกาสในการปรากฏในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาเมื่อผู้คนค้นหาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ขงเรา
5. CMS (Content Management System):
ระบบจัดการเนื้อหาที่ช่วยในการสร้างและจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งมักจะมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้ใช้สามารถเพิ่ม แก้ไข หรือลบเนื้อหา เช่น ข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโค้ด ตัวอย่าง CMS ที่เป็นที่นิยมก็อย่างเช่น WordPress, Joomla และ Drupal เป็นต้น การเลือก CMS ให้เหมาะสมกับบริษัทก็เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนสร้างเว็บไซต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. SEO (Search Engine Optimization):
กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้เข้ามาติดอันดับสูงในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหาอย่าง Google หากการวางแผนสร้างเว็บไซต์สามารถทำให้เป็นมิตรต่อ SEO ได้ไม่เพียงแต่จะสามารถเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดได้อีกด้วย
7. Responsiveness:
ความสามารถในการปรับขนาดและรูปแบบของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ทุกประเภท ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในยุคปัจจุบันเนื่องจากมีการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์พกพาอย่างมากมาย เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต การวางแผนสร้างเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์มี Responsiveness จะทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์สามารถเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกและได้รับประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดี และยังสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของเราได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาได้ด้วย
8. การปรับปรุงและการดูแลรักษา (Maintenance):
การดูแล ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ทันสมัย รวมถึงการป้องกันการโจมตีและการอัปเดตความปลอดภัยในการเข้าชมเว็บไซต์ การวางแผนสร้างเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพไม่ควรละเลยการดูแลเว็บไซต์ให้ทันสมัยต่อการใช้งานอยู่เสมอ ควรทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยและสะดวกสบายก่อนการใช้งาน เพราะไม่เพียงจะเป็นผลดีในการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อตัวจัดอันดับบนหน้าค้นหาอีกด้วย
H3 9. UI (User Interface):
ส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เห็นและสัมผัสเมื่อใช้งานเว็บไซต์ เป็นตัวแสดงและอินเทอร์เฟซที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างผู้ใช้กับระบบที่ออกแบบไว้ เช่น ปุ่ม เมนู ซึ่ง UI จะมุ่งเน้นที่การออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานและมองเห็น และมักใช้สี รูปแบบ และกราฟิกเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่น่าสนใจและเข้าใจได้ง่าย
10. UX (User Experience):
ประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับจากการใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โดย UX จะมุ่งเน้นที่การออกแบบให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดี ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับกระบวนการการนำทาง การให้ข้อมูล ความสะดวกสบายในการใช้งาน และความพึงพอใจของผู้ใช้ เป็นต้น การวางแผนสร้างเว็บไซต์ที่มี UX ที่ดีก็จะเพิ่มโอกาสในการเยี่ยมชมซ้ำของผู้ใช้ได้
การรู้จักคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์จะสามารถช่วยให้คุณวางแผนสร้างเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าผู้ประกอบการมือใหม่จะไม่ได้ลงมือสร้างเว็บไซต์เองและเลือกที่จะจ้างบริษัทรับทำเว็บไซต์ แต่การเรียนรู้ศัพท์เหล่านี้ไว้ก็จะช่วยให้ผู้ประกอบการมือใหม่สามารถพูดคุยเนื้องานกับบริษัทนั้น ๆ ได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
1001 Click บริษัทรับทำเว็บไซต์องค์กร ธุรกิจ หรือบริษัท รวมถึงเว็บไซต์ขายสินค้าและบริการ มีบริการดูแลเรื่องโฮสติ้ง การทำ SEO ให้คำปรึกษาและคำแนะนำต่าง ๆ สำหรับธุรกิจของคุณ หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://www.1001click.com/
บริษัทรับทำเว็บไซต์ 1001click สามารถติดต่อขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ผ่านช่องทาง
- Line ID: 1001click
- Tel: 081 116 1001
- E-mail: info@1001click.com